ของพรีเมี่ยมจัดเป็นสินค้าที่ผู้ประกอบการทุกคนต้องการ เพราะนอกจากจะช่วยในการโปรโมตสินค้าและยังช่วยโปรโมตยอดขายได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว อาจจะกล่าวได้ว่าการเลือกบริษัทรับทำของพรีเมี่ยม คือสิ่งที่จำเป็นสำหรับธุรกิจในยุคนี้เป็นอย่างยิ่ง และก่อนจะติดต่อบริษัทรับทำของพรีเมี่ยมต้องรู้อะไรบ้าง มาดูพร้อมๆ กัน
1.รู้ว่าต้องการแจกให้กับลูกค้ากลุ่มใดกันแน่
สำหรับเรื่องพื้นฐานที่ทุกผู้ประกอบการควรรู้คือ ของพรีเมี่ยมที่คุณต้องการจะแจกนั้น แจกให้กับลูกค้ากลุ่มใด เพราะกลุ่มลูกค้าเป็นตัวชี้วัดได้อย่างชัดเจนว่าการแจกของพรีเมียมควรเลือกแบบใดที่จะถูกใจลูกค้ากลุ่มนั้นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรณีที่กลุ่มลูกค้าของผู้ประกอบการมีช่วงอายุที่หลากหลาย มีรสนิยมเฉพาะตัว หากคุณทำการเก็บแบบสำรวจได้เรียบร้อยแล้วว่าต้องการแจกให้กับลูกค้ากลุ่มใดกันแน่ จะทำให้เลือกของพรีเมียมได้ถูกใจมากยิ่งขึ้น
2.มีงบประมาณเท่าใด
สำหรับงบประมาณถือเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญสำหรับผู้ที่ต้องการคุมงบในการผลิตของพรีเมียม ส่วนใหญ่แล้วของพรีเมียมจะมีความเฉพาะตัว และมีให้เลือกหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นของชิ้นใหญ่หรือของชิ้นเล็กก็ตามแต่ และของพรีเมียมแต่ละอย่างนั้นจะมีราคาที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้นจะดีกว่าหรือไม่หากคุณจะเลือกของที่มีงบประมาณพอเหมาะพอควรสำหรับการผลิตของพรีเมียมที่จะมอบให้ลูกค้า ซึ่งก่อนจะติดต่อไปทางบริษัทรับผลิตก็หมายความว่าคุณอาจจะต้องคำนวณงบประมาณของตนเองให้ได้ เพื่อลดปัญหาของการสั่งผลิตของที่เกินงบ
3.ต้องการแจกกี่คน
สำหรับอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญก่อนจะติดต่อบริษัทรับผลิตของพรีเมียม ก็คือการที่ผู้ประกอบการทำความเข้าใจ และนับจำนวนของลูกค้าที่ต้องการแจก ซึ่งในกรณีแจกของขวัญปีใหม่ อาจจะทำการคำนวณได้ง่ายกว่ากรณีที่แจกของพรีเมียมตามยอดขาย ซึ่งการคำนวณว่าจะต้องแจกกี่คนอาจเป็นเรื่องยากนั่นเอง ดังนั้นหากว่าคุณไม่รู้จำนวนแน่นอน อาจทำการซื้อข้อมูลจากบริษัทสำรวจข้อมูลว่า ยอดการซื้อสินค้าของบริษัทคุณมีอยู่ในช่วงราคาเท่าใดบ้าง เพื่อให้การแจกสินค้าเป็นเรื่องง่ายดาย ไม่ได้สั่งผลิตมามากเกินไป อีกทั้งยังช่วยลดปัญหาของพรีเมียมเหลืออีกด้วย ของพรีเมียมที่แจกไม่หมดอาจทำให้เกิดปัญหาในหลายๆ ด้าน และไม่สามารถนำมาใช้งานในอนาคตได้อีกด้วย
และนี่ก็คือเรื่องที่คุณควรรู้ก่อนจะติดต่อบริษัทรับทำของพรีเมี่ยม จะดีกว่าหรือไม่หากว่าคุณหาคำตอบของคำถามเหล่านี้ได้อย่างชัดเจน เพื่อให้การสั่งผลิตของพรีเมียมตอบโจทย์สำหรับตนเองได้ดีที่สุด และเป็นการสร้างยอดขายเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิมได้อย่างน่าอัศจรรย์สำหรับยุคที่เศรษฐกิจฝืดเคืองแบบนี้ได้เลยทีเดียว
